นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อตกลงทั่วไป

กลุ่มบริษัท นัมเบอร์วัน ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท นัมเบอร์วันแลนด์ จำกัด บริษัท นัมเบอร์วัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวล ลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการธุรกิจ เว็บไซต์ www.numberonegroup.com, www.numberoneland.co.th, www.taladnumberoneram2.com, www.numberoneapartment.com, www.numberoneplaza.com, www.lakeviewsportclub.com, www.numberonehousing.com, www.theonebangna.com(“เว็บไซต์”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ บริษัทจึงจะใช้วิธีการที่เหมาะสมเพื่อจัดการ คุ้มครอง และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อตกลงการใช้งานบนเว็บไซต์ นโยบายการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ และข้อตกลงการบันทึกข้อมูลเพื่อให้ฝ่ายขายติดต่อกลับ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือท่านให้เข้าใจถึงวิธีการของบริษัทที่ใช้ในการจัดเก็บ การนำไปใช้ การเปิดเผย และ/หรือ การดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายจำกัดไว้ ท่านตกลงให้บริษัทดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลตามวิธีการและวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงที่ระบุในข้อ 2 ด้านล่าง ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร?

1. ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล สามารระบุตัวของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว
2. ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลทางการแพทย์ ภาพถ่าย และวิดีโอ


ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บอย่างไร?


  1. ตัวอย่างสถานการณ์ที่บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังนี้:
    (ก) เมื่อท่านกรอกข้อมูลลงในการสมัครรับข่าวสาร การส่งคำร้องขอ หรือคำขอเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัท (โดยวิธีการทางโทรศัพท์ ต่อหน้า อีเมลหรือวิธีการอื่นทางอิเล็กทรอนิกส์)
    (ข) เมื่อท่านติดต่อกับบริษัทโดยตรงเกี่ยวกับสินค้าและบริการ (ผ่านทางศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท หรือพนักงานภายในร้านค้าของบริษัท ทางอีเมล ทางโทรศัพท์ หรือโดยวิธีการอื่นๆ)
    (ค) เมื่อท่านเข้าร่วม และติดต่อกับบริษัทเมื่อบริษัทจัดให้มีโปรโมชั่น การแข่งขัน การประกวด การจับสลากชิงโชค หรือกิจกรรมพิเศษ
    (ง) เมื่อท่านสมัครเข้าทำงานกับบริษัท
    (จ) เมื่อท่านสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท
    (ฉ) เมื่อท่านเข้าร่วมในการสำรวจความคิดเห็น หรือการค้นคว้าวิจัยในรูปแบบอื่น


ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บเมื่อใด และข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่ถูกเก็บ

  1. ท่านสามารถเข้าใช้และสืบค้นเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปตามความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาสินค้าและบริการตามที่ท่านต้องการได้
    5. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการลงทะเบียน การยินยอมสมัคร การกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม อีเมล แบบสอบถาม คำขอ และสถานการณ์อื่นๆ ตามที่ท่านเลือกจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท
    6. เมื่อท่านสมัครเข้าทำงานกับบริษัท บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านแจ้งต่อบริษัทระหว่างการเปิดรับสมัครพนักงาน รวมทั้งจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ระบุไว้ในประวัติส่วนตัว (resume) และในใบสมัครอื่นๆ ที่บริษัทกำหนดให้ท่านกรอกข้อมูล ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจรวมถึงประวัติการทำงาน และคุณสมบัติที่จะได้รับเลือกเข้าทำงาน
    7. ตัวอย่างประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจจัดเก็บจากท่านมีดังนี้:
    (ก) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล
    (ข) ข้อมูลเกี่ยวกับการอยู่อาศัย เช่น ขนาดที่อยู่อาศัย ลักษณะ และสภาพความเป็นอยู่
    (ค) ข้อมูลที่ใช้สำหรับการแจ้งค่าบริการ เช่น ที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์
    (ง) ข้อมูลเฉพาะบุคคล เช่น เลขประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ช่องทางการติดต่อที่สะดวก และวันเกิด
    (จ) รายละเอียดการเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท
    (ฉ) รายละเอียดการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ เช่น ข้อมูลการเคลื่อนไหวของท่าน (Traffic Data) ข้อมูลสถานที่ และวิธีการที่ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ และ
    (ช) ประวัติการใช้งานของท่าน


การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

  1. กฎหมายกำหนดให้บริษัทจัดเก็บข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวของท่านเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทและบริษัทรับรองว่าภายหลังระยะเวลาดังกล่าว ข้อมูลการเคลื่อนไหวของท่านจะถูกทำลาย หรือถูกแปลงเป็นข้อมูลนิรนามทันทีที่สามารถทำได้
    9. ท่านอาจต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัทในบางสถานการณ์ (เช่น ข้อมูลของญาติสนิท หรือบุคคลอื่นที่อาจรับสิทธิประโยชน์แทนท่านหรือบุคคลอื่นที่ท่านระบุให้เป็นผู้ถูกอ้างอิง (Referee) ของท่าน ในกรณีที่ท่านสมัครเข้าทำงานกับบริษัท) ในกรณีดังกล่าว บริษัทถือว่าท่านได้รับรองและยืนยันกับบริษัทว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกสำหรับการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เพื่อให้บริษัทดำเนินการตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 ข้างต้นกับข้อมูลดังกล่าวแล้ว
    10. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่จำเป็นสำหรับการดำเนินกิจกรรมหรือการประกอบธุรกิจตามปกติของบริษัท
    11. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่านจะถูกเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย และ/หรือนำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่บริษัทอาจ/จำเป็นที่จะต้องดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้:
    (ก) เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน
    (ข) เพื่อรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า
    (ค) เพื่อประเมิน ดำเนินการ และจัดหาสินค้า บริการ และ/หรือ สิ่งอำนวยความสะดวกแก่ท่าน
    (ง) เพื่อจัดการ และดำเนินการเกี่ยวกับสินค้า บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ท่านร้องขอ
    (จ) เพื่อจัดให้มีข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลและประวัติของท่าน
    (ฉ) เพื่อโต้ตอบการสอบถามหรือการร้องเรียนของท่าน และเพื่อแก้ปัญหาและข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับบริษัท
    (ช) เพื่อให้บริการ หรือให้การช่วยเหลือตามที่ท่านร้องขอ
    (ซ) เพื่อให้ข้อมูล และ/หรือรายการอัพเดทเกี่ยวกับสินค้า บริการ โปรโมชั่นที่บริษัทกำลังจะจัดขึ้น และ/หรือกิจกรรมที่จัดโดยบริษัทและบุคคลภายนอกที่ได้รับ การคัดเลือกโดยบริษัท ซึ่งท่านอาจให้ความสนใจเป็นครั้งคราว
    (ฌ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาดโดยตรง ผ่านทางข้อความโทรศัพท์ (SMS) โทรศัพท์ อีเมล โทรสาร สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ/หรือ ช่องทางการติดต่ออื่นๆ ในกรณีที่ท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่าง ของบริษัท และวิธีการอื่นใดตามที่ท่านยินยอม
    (ญ) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรมของท่าน และการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท ซึ่งรวมถึงการประกวด การส่งเสริมการขาย หรือแคมเปญต่างๆ
    (ฎ) เพื่อให้คะแนนหรือรางวัลในกิจกรรมของบริษัท
    (ฏ) เพื่อรักษาและจัดเก็บบันทึกข้อมูลภายในของบริษัทให้เป็นปัจจุบัน
    (ฐ) เพื่อการบริหารภายในของบริษัท
    (ฑ) เพื่อส่งคำอวยพรในโอกาสต่างๆ
    (ฒ) เพื่อส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่น และให้ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ
    (ณ) เพื่อตรวจสอบ พิจารณา และปรับปรุงกิจกรรม โปรโมชั่น สินค้าและ/หรือ บริการของบริษัท
    (ด) เพื่อดำเนินการตรวจสอบการอ้างอิงฐานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของท่านในกรณีที่จำเป็น เมื่อบริษัทจัดหาสินค้า บริการ และ/หรือสิ่งอำนวย ความสะดวกให้แก่ท่าน
    (ต) เพื่อดำเนินการชำระเงินเกี่ยวกับธุรกรรมพาณิชย์ที่ท่านทำกับบริษัท
    (ถ) เพื่อดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มร่วมกับบุคคลอื่น
    (ท) เพื่อทำการวิจัยตลาด หรือการสำรวจความคิดเห็น การวิเคราะห์การตลาดภายใน การจัดทำข้อมูลลูกค้า การวิเคราะห์รูปแบบและทางเลือกของลูกค้า การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัท
    (ธ) เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้สอบบัญชีสำหรับการตรวจสอบและการรายงานบัญชีภายในของบริษัท
    (น) เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่ท่านทำกับบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการขอคำแนะนำทางกฎหมาย และ/หรือ คำแนะนำทางการเงิน และ/หรือเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
    (บ) เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ร่วมธุรกิจของบริษัท เพื่อการพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ หรือการจัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกัน
    (ป) เพื่อการตรวจสอบทางบัญชี การบริหารความเสี่ยง และความมั่นคง
    (ผ) เพื่อตรวจสอบ สืบสวน และป้องกันการฉ้อโกง การกระทำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือการกระทำผิดกฎหมาย
    (ฝ) เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทและสามารถบังคับตามสิทธิที่บริษัทมีตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา
    (พ) เพื่อโอนสิทธิ ผลประโยชน์ และหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาใดๆ ที่เข้าทำกับบริษัท
    (ฟ) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้มีการเปิดเผยตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งศาล แนวทาง หนังสือเวียน หรือมาตรการที่บังคับใช้ กับบริษัท
    (ภ) เพื่อบังคับตามสิทธิ หรือปกป้องสิทธิของบริษัทหรือสิทธิของท่าน โดยให้สอดคล้องกับหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมาย กฎ และข้อบังคับที่บังคับใช้
    (ม) เพื่อพิสูจน์และตรวจสอบประวัติของท่าน โดยการพิสูจน์และตรวจสอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานให้เข้าทำงาน กับบริษัท และ/หรือ
    (ย) เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินการ การรักษา และการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท รวมทั้งเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทดีขึ้น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีดังกล่าวเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
    12. วัตถุประสงค์ในการที่บริษัทอาจหรือจะทำการรวบรวม นำไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าวอาจไม่ถูกระบุอยู่ในข้อกำหนดข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นๆ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน


กรณีเฉพาะที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม

  1. เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทมีต่อท่าน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ ไว้แก่บริษัทต่อผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ตัวแทน บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใด อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ระบุหรือได้แจ้งต่อท่านตามการแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลแก่ท่าน นอกจากนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ แนวทาง ระเบียบ หรือระบบการจัดการ ที่บังคับใช้กับบริษัท
    14. ตัวอย่างบุคคลที่สาม ที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบ มีดังนี้:
    (ก) ผู้ให้บริการนำเข้าข้อมูล (Data entry service providers)
    (ข) ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้คำปรึกษา และ/หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก
    (ค) ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการด้านการบริหาร หรือด้านการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เช่น การสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ โลจิสติกส์ การส่งสินค้า การประกอบ การติดตั้ง การพิมพ์ การบริการทางไปรษณีย์ หรือบริการด้านการตลาด และกิจกรรมส่งเสริม การขาย
    (ง) เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
    (จ) บริษัทหรือบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือบริษัทที่ตั้งอยู่ในประเทศอื่น และ
    (ฉ) บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายงานข้อมูล หรือผู้ให้บริการจัดหางาน ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับสมัคร และคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน และ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครงานของบริษัท
    15. บุคคลที่สามที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยมีสิทธิในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาที่ทำกับบริษัทเท่านั้น โดยข้อกำหนดส่วนหนึ่งของสัญญาที่บริษัททำกับบุคคลที่สามเหล่านี้กำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายใดๆ ตามที่บริษัทกำหนด และบุคคลเหล่านี้จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย
    16. บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่ขายข้อมูลดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก


การขอเข้าถึง และ/หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

  1. ท่านสามารถขอเข้าถึงและ/หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครองหรือภายใต้การควบคุมของบริษัท โดยส่งอีเมลถึงบริษัทได้ที่ information@numberonegroup.com
    18. เมื่อมีการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้แก่ท่านภายในกำหนดเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่มีการส่งคำขอถึงบริษัท
    19. กรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาข้างต้นได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเวลาที่เร็วที่สุดที่บริษัทจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้
    20. เมื่อมีการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้:
    (ก) แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็วที่สุดนับแต่ได้รับคำขอ เว้นแต่บริษัทจะมีเหตุผลอันสมควรที่จะไม่ดำเนินการเช่นนั้น และ
    (ข) ภายใต้บังคับข้อ 24 ด้านล่างนี้ บริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขแล้วให้แก่องค์กรที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนที่จะมีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่องค์กรนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย หรือทางธุรกิจ
    21. ในกรณีที่ท่านยินยอม บริษัทอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขแล้วไปยังองค์กรหนึ่งองค์กรใดเป็นการเฉพาะซึ่งบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ องค์กรนั้นภายในหนึ่งปีก่อนวันที่มีการแก้ไข
    22. บริษัทอาจกำหนดค่าธรรมเนียมเพื่อชดเชยต้นทุนการบริหารของบริษัท ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวขึ้นอยู่กับขอบเขตและลักษณะของงานที่จำเป็นในการ ดำเนินการตามคำขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจะได้รับการประเมินเป็นรายกรณีโดยเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (Data Protection Officer) ในกรณี ที่มีการกำหนดค่าธรรมเนียมดังกล่าว บริษัทจะจัดส่งประมาณการค่าธรรมเนียมเป็นหนังสือให้ท่านพิจารณา ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านเมื่อ ท่านตกลงชำระค่าธรรมเนียม ในบางกรณีบริษัทอาจให้ท่านวางมัดจำก่อนที่บริษัทจะดำเนินการตามคำขอเข้าถึงข้อมูล ในกรณีดังกล่าวบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ พร้อมหนังสือประมาณการค่าธรรมเนียม
    23. ท่านรับทราบว่าบริษัทถือว่าท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและครบถ้วน และหากมีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลดังกล่าวคือข้อมูลล่าสุด บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์หากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท และ/หรือกรณีที่ท่านแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันทำให้ข้อมูลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลล่าสุด

การขอเพิกถอนความยินยอม

  1. ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัทสำหรับการจัดเก็บ นำไปใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท โดยส่งคำขอเพิกถอนเป็นอีเมลถึงบริษัทได้ที่ information@numberonegroup.com
    25. บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านสำหรับการเพิกถอนความยินยอมตามระยะเวลาที่เหมาะสม และบริษัทจะไม่จัดเก็บ นำไปใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวิธีการที่ระบุไว้อีกต่อไป
    26. การเพิกถอนความยินยอมอาจทำให้เกิดผลบางอย่างตามมา เช่น บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาสินค้าหรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือบริษัทอาจไม่สามารถคงความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทต่อไปได้ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลของการเพิกถอนความยินยอมภายหลังจากที่บริษัทได้รับคำร้องขอเพิกถอนความยินยอม
    27. อย่างไรก็ตาม ท่านรับทราบว่าแม้ท่านได้เพิกถอนความยินยอมแล้ว บริษัทยังคงมีสิทธิจัดเก็บ นำไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีจำเป็นหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย


การคุ้มครองและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทจะจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อรับรองแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยอย่าง เพียงพอ บริษัทจะใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บ การใช้ การเปิดเผย การคัดลอก การดัดแปลง การรั่วไหล การสูญหาย ความเสียหาย และ/หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่ บุคคลภายนอกใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเนื่องมาจากเหตุที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้
    29. บริษัทจะจัดให้มีมาตรการ เพื่อรับรองแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทจะถูกทำลายและ/ หรือถูกทำให้เป็นข้อมูลนิรนามโดยทันทีในระยะเวลาที่เหมาะสม เมื่อ
    (ก) ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้ไม่เป็นประโยชน์ต่อวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บอีกต่อไป
    (ข) การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายหรือทางธุรกิจอีกต่อไป


ขั้นตอนการร้องเรียน

  1. หากท่านต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับการดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลหรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านสามารถร้องเรียนต่อบริษัทได้โดยการส่งอีเมลไปยัง information@numberonegroup.com
    31. บริษัทจะดำเนินการแก้ไขตามที่ได้รับการร้องเรียนอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม


ติดต่อบริษัท

  1. ท่านสามารถติดต่อบริษัท (หรือส่งแบบฟอร์มคำขอหรือคำร้องเรียน) โดยทางเว็บไซต์หรืออีเมลตามที่อยู่ดังต่อไปนี้:
    อีเมล: information@numberonegroup.com ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
    33. บริษัทจะทบทวนนโยบาย ขั้นตอน และกระบวนการของบริษัทเป็นระยะๆ เพื่อรับรองว่าบริษัทมีการจัดการ การป้องกัน และการดำเนินการกับข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม
    34. บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขข้อกำหนดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามดุลยพินิจของบริษัทฝ่ายเดียว เมื่อบริษัททำการแก้ไขข้อกำหนดตาม นโยบายนี้ บริษัทจะประกาศลงบนเว็บไซต์ ซึ่งท่านสามารถเข้าชมได้ที่ www.numberonegroup.com ทั้งนี้ บริษัทจะไม่แจ้งการแก้ไข ดังกล่าวให้ท่านทราบเป็นรายบุคคล
    35. หากท่านยังคงเข้าใช้บริการในเว็บไซต์ต่อไปภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบ และตกลงตามข้อกำหนดที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว ด้วยเหตุนี้ บริษัทแนะนำให้ท่านเข้าตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นครั้งคราวเพื่อให้มั่นใจว่าท่านได้รับทราบ นโยบายคุ้มครองส่วนบุคคลฉบับล่าสุด

    ข้อมูล ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2563

นโยบายการใช้คุกกี้

กลุ่มบริษัท นัมเบอร์วัน ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท นัมเบอร์วันแลนด์ จำกัด บริษัท นัมเบอร์วัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวล ลอปเม้นท์ จำกัด (“บริษัท”) ใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ www.numberonegroup.com, www.numberoneland.co.th, www.taladnumberoneram2.com, www.numberoneplaza.com, www.numberoneapartment.com, www.lakeviewsportclub.com, www.numberonehousing.com, และ www.theonebangna.com (“เว็บไซต์”) เพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ท่าน โดยคุกกี้บางประเภทที่บริษัทใช้มีความสำคัญต่อการทำงานของบริการบนเว็บไซต์ ในขณะที่คุกกี้บางประเภทใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล (สถิติ) การใช้งานของท่านบนเว็บไซต์ เพื่อให้บริษัทสามารถพัฒนาบริการบน เว็บไซต์ให้สะดวกสบายในการใช้งานและเป็นประโยชน์แก่ท่าน คุกกี้บางประเภทเป็นคุกกี้ที่มีอยู่ชั่วคราวซึ่งจะหายไปเมื่อท่านปิด เบราว์เซอร์ ในขณะที่คุกกี้บางตัวจะคงอยู่ในคอมพิวเตอร์ของท่านไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมีการใช้งาน Local คุกกี้ ซึ่งเป็นคุกกี้ที่มาพร้อมกับโฆษณาในระดับท้องถิ่นต่างๆ โดยคุกกี้เหล่านี้จะหายไปเมื่อโฆษณาดังกล่าวสิ้นสุดลง

บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้คุกกี้บางประเภทเพื่อให้เว็บไซต์สามารถใช้การได้ ในขณะที่คุกกี้บางประเภทจะถูกใช้งานเพื่อพัฒนาการ ทำงานของเว็บไซต์และเพื่อประสบการณ์ในการใช้งานของท่าน


คุกกี้ที่จำเป็นต้องมี จะถูกใช้งานเพื่อ:

  • จดจำสิ่งที่ท่านสนใจเข้าชมในแต่ละหัวข้อ • จดจำระยะเวลาการเข้าใช้งาน


คุกกี้สำหรับการใช้งาน จะถูกใช้งานเพื่อ:

  • จดจำรายละเอียดการเข้าสู่ระบบของท่าน
    • ทำให้มั่นใจว่าท่านได้รับการคุ้มครองเมื่อเข้าสู่ระบบ
    • ทำให้มั่นใจว่าเว็บไซต์มีความต่อเนื่อง
    • สนับสนุนบริการสื่อสารทางออนไลน์ (Live Chat)


คุกกี้ปฏิบัติการ จะถูกใช้งานเพื่อ:

  • พัฒนาการทำงานของเว็บไซต์
    • พัฒนาการให้บริการแก่ผู้ใช้งาน


คุกกี้เป้าหมาย จะถูกใช้งานเพื่อ:

  • ให้ท่านสามารถแบ่งปันและแสดงความถูกใจข้อมูลที่อยู่บนเว็บไซต์
    • ส่งข้อมูลให้แก่เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดทำโฆษณาให้เป็นไปตามความต้องการของเว็บไซต์เหล่านั้น


คุกกี้จะถูกใช้งานเพื่อพัฒนาการให้บริการแก่ท่าน โดยมีตัวอย่างดังต่อไปนี้

  • ทำให้เว็บไซต์สามารถจดจำอุปกรณ์ของท่านได้ ทำให้ท่านไม่ต้องให้ข้อมูลเดิมๆ หลายครั้ง
    • จดจำว่าเมื่อท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ ท่านได้ใช้เวลาในการเข้าชมหน้าใด และได้กลับมาเข้าชมอีกครั้งหรือไม่
    • คอยสำรวจจำนวนผู้เข้าใช้เว็บไซต์ เพื่อทำให้เว็บไซต์ใช้การได้ง่ายขึ้นและเพื่อให้บริษัทมั่นใจได้ว่าการใช้งานเว็บไซต์มีความรวดเร็ว
    • วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยให้บริษัทเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่านและเพื่อให้บริษัทสามารถพัฒนาเว็บไซต์ต่อไป

    โปรดทราบว่าหากท่านเลือกที่จะไม่ใช้คุกกี้ระหว่างที่ท่านเข้าใช้งานเว็บไซต์ บริการหรือหน้าต่างๆ บนเว็บไซต์บางอย่างอาจใช้การไม่ได้ตามที่คาดหมาย และ บริษัทจะไม่สามารถส่งข้อมูลแจ้งเตือนท่านเกี่ยวกับสินค้าที่ท่านอาจสนใจตามประสบการณ์การเลือกเข้าชมตามประวัติที่ผ่านมาของท่านได้ในกรณีสมัครรับ จดหมายข่าวจากทางเรา

    หากท่านต้องการลบคุกกี้ที่อยู่บนคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถศึกษาได้จากคำสั่งของผู้ให้บริการเบราว์เซอร์ของท่านโดยกดที่คำว่า “ช่วยเหลือ” ในรายการเบราว์เซอร์ของท่าน

    นอกจากนี้ ท่านสามารถศึกษาเกี่ยวกับคุกกี้เพิ่มเติม รวมถึงวิธีการลบและควบคุมคุกกี้ได้ที่ www.aboutcookies.org หรือโดยกดที่คำว่า “ช่วยเหลือ” ในหน้ารายการเบราว์เซอร์ของท่าน